


2. สังเกตอาการโรคมือ เท้า ปาก ที่เข้าข่ายเสี่ยง และควรปรึกษาแพทย์
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า โรคมือเท้าปาก เป็นโรคติดต่อที่สามารถดูแลตามอาการและหายได้เองในช่วงเวลาไม่นาน แต่ในผู้ป่วยบางราย ก็พบว่ามีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากคุณคือผู้ป่วย หรือผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย แนะนำให้สังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ อาจกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยง ควรรีบนำตัวผู้ป่วยพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
- มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 2 วัน
- มีอาการเหนื่อย หอบ แม้ไม่ได้ออกแรง
- ไม่มีความอยากอาหาร ทานอาหารไม่ได้เลย
- ง่วงซึม นอนหลับทั้งวัน อ่อนเพลีย
- มีอาการพูดเพ้อ หรือพูดไม่รู้เรื่อง
- ปวดศีรษะมาก
- ปวดต้นคอ คอแข็ง
- อาเจียนบ่อย มากกว่า 3 ครั้ง/วัน
- แขน – ขา อ่อนแรง เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก
- มีอาการผวาหรือกระตุก แขนหรือมือสั่น ที่แตกต่างจากตอนปกติ
3. วิธีรักษาอาการ โรคมือ เท้า ปาก กี่วันหาย?
ในปัจจุบัน ยังไม่มีการรักษาโรคมือเท้าปาก แบบเฉพาะทาง เนื่องจากเป็นอาการที่ส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการโดยทั่วไปของผู้ป่วย แพทย์จะพิจารณาจากอาการของผู้ป่วยและดูแลตามลักษณะอาการ เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็ว เช่น ในผู้ป่วยเด็กที่ทานอาหารไม่ได้ แพทย์อาจมีการให้อาหารหรือน้ำเกลือทางเส้นเลือด และดูแลความสะอาดเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ และมีการให้ยาปฏิชีวนะตามอาการ
สำหรับคนที่สงสัยว่าโรคมือเท้าปาก กี่วันหาย คำตอบคือ ในกรณีที่ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง อาการจะดีขึ้นเองในช่วง 1 สัปดาห์ เพียงแต่ต้องดูแลความสะอาด ทานยาตามอาการไปจนกว่าจะหาย แต่สำหรับผู้ป่วยที่พบว่ามีอาการรุนแรง ตามที่ได้ระบุไปข้างต้น อาจมีอาการป่วยนานกว่า แนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำการรักษาได้อย่างถูกวิธี และหายจากอาการป่วย กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว

4. ป้องกันตัวเองจากโรคมือ เท้า ปาก ต้องทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีอาการใด ๆ แต่บังเอิญได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือต้องการหาแนวทางป้องกันโรคเอาไว้แต่เนิ่น ๆ เพื่อความสบายใจ สามารถปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้ เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคมือเท้าปากได้เลย
ดูแลความสะอาด สุขอนามัยต่าง ๆ
ความสะอาด เป็นปัจจัยสำคัญของการป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคที่ติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ ที่มาจากร่างกายของผู้ป่วย เพราะเราไม่รู้เลยว่า สิ่งของที่เราสัมผัสนั้นจะมีเชื้อโรคอะไรเกาะอยู่บ้าง หากก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อมาสัมผัส ก็มีโอกาสที่เราจะรับเชื้อต่อได้ เพราะฉะนั้น การดูแลรักษาความสะอาดจึงช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็น
- ล้างมือบ่อย ๆ และล้างมือด้วยสบู่เมื่อเข้าห้องน้ำ
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด ใช้ช้อนกลางเมื่อต้องทานร่วมกับผู้อื่น
- สวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ท่ามกลางคนเยอะ
- เช็ดทำความสะอาดสิ่งของที่สัมผัสบ่อย ๆ หรือบริเวณที่ใช้งานเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก
อีกหนึ่งวิธีป้องกันโรคมือเท้าปากก็คือการฉีดวัคซีน โดยจะเป็นวัคซีนที่ต้านเชื้อ Enterovirus 71 ซึ่งเป็นเชื้อหลักที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก และเป็นเชื้อที่ทำให้อาการมีโอกาสที่จะรุนแรงขึ้นได้ สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีน อายุที่เหมาะสมคือตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี แต่ถ้าอายุเกินแล้ว ก็สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางรับวัคซีนที่เหมาะสมได้
การป้องกัน โรคมือ เท้า ปาก เริ่มต้นได้จากการดูแลสุขอนามัยที่ดี รวมถึงการหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยและไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน นอกจากนี้ การสังเกตอาการและรับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงทีหากมีความผิดปกติจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดได้มาก การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรัก ห่างไกลจากโรคมือ เท้า ปากและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
เพราะความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่เลือกที่จะวางแผนรับมือได้ ด้วย ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล
ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน – 100 ล้านบาท
✅ Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)
✅ D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)
✅ เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง
(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(5) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา สืบค้น ณ วันที่ 11/11/2567
🔖โรงพยาบาลพญาไท
🔖โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์